Peeradon Ariyanukooltorn
NIKKOR Z 14-30mm f/4s REVIEW เลนส์มุมกว้างที่ตรงกว่า PC-E
Updated: Aug 22, 2019
หลังจากปีที่แล้ว ทาง Nikon ได้เปิดตัว Nikon Z Series ได้แก่ Z 6 และ Z 7 พร้อมกับเลนส์ 24-70mm f/4s, 35mm f/1.8s, 50mm f/1.8s ไปนั้น ในปีนี้นิคอนก็ได้จัดเต็ม ทยอยเปิดตัวเลนส์สำหรับ Z Series ออกมาตลอดทั้งปี ซึ่งตัวหนึ่งที่ผมให้ความสนใจมาก และประทับใจมากๆ เลยคือ NIKKOR Z 14-30mm f/4s ตัวนี้ครับ
:: เท้าความคำว่า S Line อีกครั้ง
S line นั้นจัดได้ว่าเป็นยำรวมมิตรทุกอย่างของนิคอนเอาไว้แล้ว ตั้งแต่ชิ้นแก้ว เคลือบหน้าเลนส์ มอเตอร์ และอื่นๆ จนรวมเป็นคำๆ เดียวคือ S Line เพราะฉะนั้น ในบทความนี้ผมจะไม่พูดเรื่องที่เกี่ยวกับตัว S แล้ว เพราะทุกตัว ให้คุณภาพภาพที่เยี่ยม CA หาแทบไม่ได้ โฟกัสไว เงียบ และโค้ทติ้งนาโนระดับทอปที่พบได้ในเลนส์เกรดพรีเมียมทุกตัวของนิคอนครับ ถือว่าละไว้ เป็นฐานที่เข้าใจ เจอตัว. S line เมื่อไร วางใจ แล้วจบได้เลย

เมื่อก่อนนั้น สมัย DSLR การที่เราจะได้ครอบครองเลนส์ที่กว้างระดับ 14mm นั้นมีแค่ช้อยส์เดียว ก็คือ AF-S 14-24mm f/2.8G เลย ซึ่งน้ำหนักประมาณ 1kg ราคาเกินครึ่งแสน มีขนาดที่ใหญ่ และหน้าเลนส์ปูดใหญ่มากๆ ยากแก่การพกพา และการดูแลรักษา ซึ่งตัวรองๆ ลงมานั้นก็จะมีแค่ 16-35mm f/4G, 18-35mm f/3.5-4.5G หรือไม่ก็ 20mm f/1.8G ซึ่งส่วนใหญ่แล้วก็จะไม่มีตัวไหนเลยที่ได้ Benefit ของ 14mm มาใช้งาน
รอบนี้นิคอนเลยงัดไม้หนัก เอาข้อได้เปรียบของ mirrorless ทางระยะ flange และขนาดเม้าท์ที่ใหญ่ขึ้น สร้างปีศาจภายใต้เลนส์ขนาดจิ๋วออกมา ชื่อว่า NIKKOR Z 14-30mm f/4s

ขนาดของมันเรียกได้ว่า แทบจะออกมาเท่ากับ 24-70mm f/4s ที่ออกมาก่อนหน้า ต่างกันที่หน้าเลนส์ที่ขยายออกเป็น 82mm และ ใส่ฟิลเตอร์ได้ แทบจะเรียกได้ว่าเป็น 14mm ของเซนเซอร์ฟูลเฟรมตัวแรกเลยก็ว่าได้ที่สามารถใส่ฟิลเตอร์แบบเกลียวลงไปได้ทันทีโดยไม่ต้องหา Holder หรือฟิลเตอร์แผ่นให้ยุ่งยาก หรือจะใส่กับ Nikon Arcrest filter ก็จะเข้ากั๊นเข้ากัน ตัวเลนส์ที่เห็นในภาพนั้นเป็นสภาพที่ล๊อคเก็บไว้ เมื่อหมุนมาที่ระยะใช้งาน ตัวเลนส์จะมีความยาวที่มากขึ้นครับ
ภาพด้านล่างนี้เกิดจากการใช้ Nikon Z6 + 14-30mm f/4s พร้อมกับฟิลเตอร์ NISI ND1000 แบบเกลียว 82mm

น้ำหนักของเลนส์ตัวนี้เคาะออกมาที่ 485g ซึ่งพอรวมกับบอดี้ Z 6 / Z 7 แล้ว ก็จะอยู่ที่ประมาณ 1kg พอดิบพอดี เกินมาเล็กน้อย มันคือการยกเอาบอดี้ของ D850 มาถือเปล่าๆ โดยยังไม่ใส่เลนส์อะไรลงไปนั่นเองครับ หรือเทียบง่ายๆ ก็คือ มันคือการถือเลนส์ 14-24mm ตัวเดิมที่ยังไม่ได้ใส่เข้ากับบอดี้อะไรเลย เพราะฉะนั้นจึงจัดว่าเป็นเลนส์ที่ทำออกมาได้เบา และเล็กกระทัดรัดมากๆ


:: ตรงยิ่งกว่าไม้บรรทัด
อีกจุดอ่อนหนึ่งของเลนส์มุมกว้างที่ออกมาตามท้องตลาดนั่นคือเรื่องของ Distortion นั่นเอง ซึ่งเลนส์แทบจะทุกตัวมี Distortion ครับ แต่สำหรับเลนส์ S Series ที่ออกมา แทบจะทุกตัวนั้น Distortion ใกล้เคียงเข้าหา 0 มากๆ (DxOMark ให้ค่า Distortion ไว้ที่ 1%) ซึ่ง 14-30 ตัวนี้ก็สามารถสร้างมิติภาพมุมกว้างที่ตรงมาก ตรงจนผมไม่เคยพบเจอมาก่อนบนเลนส์มุมกว้างเลยจริงๆ
เรียกได้ว่า Tilt-Shift ที่ผมมีอยู่อย่าง PC NIKKOR 19mm ยังเห็นมิติความโค้งที่มากกว่าเจ้า 14-30 นี้เลยครับแม้ว่าจะเป็นเลนส์เฉพาะทางสำหรับถ่ายตึกที่ต้องการความตรงแล้วก็ตาม
เพราะว่าอะไร? จากที่ได้ตรวจสอบมาก็พบว่า สำหรับ Z Series นั้นได้มีการฝัง Profile Correction มากับตัวภาพเรียบร้อยแล้ว โดยที่ไม่ต้องมาติ๊กเพิ่มใน Adobe Camera Raw เหมือนเมื่อก่อน ทำให้มิติภาพที่ออกมา ตรงเสียยิ่งกว่าตรงครับ จากเรื่องนี้ทำให้ผมค้นพบอีกอย่างด้วยว่า ทางนิคอนออกแบบเลนส์ตัวนี้ให้มีความกว้างมากกว่า 14mm เอาไว้ แต่เลือกเอาใช้เฉพาะส่วนกลางของเลนส์ เพื่อให้คุณภาพภาพที่ขอบเลนส์นั้นไม่ลดลงจนเกินไป ทำให้เป็นเลนส์ที่มีความคมยันขอบกันเลยครับ
:: ความคม
เรียกได้ว่า แทบไม่ต้องถามกันเลยเรื่องของความคมตั้งแต่ที่นิคอนออกเลนส์ S Series ออกมา อารมณ์เหมือนถูกจับอยู่ในถ้ำที่เรียกว่า F Mount มาหลายสิบปี ฝึกฝนวิชาให้ออกแบบเลนส์ตัวเทพด้วยขนาดเม้าท์เลนส์ที่เล็กขนาดนั้นมาแล้ว พอได้ขยายเม้าท์เลนส์เหมือนได้ปลดปล่อยวิชาครับ คุณภาพแต่ละตัวเลยปล่อยออกมาได้จัดเต็มมากๆ แล้วอยู่ในขนาดที่เรียกได้ว่าไม่ใหญ่จนยี้

:: แฉก
นับว่าเป็น Topic ใหญ่อีกเรื่องเลยครับที่เป็นตัวเลือกในการซื้อเลนส์ในสมัยนี้ คือการดูแฉกไฟเวลาหรี่ค่า f ให้แคบลง ซึ่งตรงนี้ผมจะไม่ตัดสินว่าแฉกของเลนส์ตัวไหนสวยหรือไม่สวย แต่จะเอาตัวอย่างให้ดูแทน เพื่อให้แต่ละคนประกอบการตัดสินใจครับ ซึ่งคาแรกเตอร์ของเลนส์ 14-30mm ตัวนี้ ให้แฉกในลักษณะที่มีปลายค่อนข้างบานครับ


:: รีวิวการใช้งานจริง
จุดที่ผมชอบมากๆ จากเลนส์ตัวนี้ นอกจากทุกอย่างที่พูดมาด้านบนแล้ว มันก็ยังจะมีข้อดีให้เขียนต่ออีกครับ ด้วยความที่เลนส์ตัวนี้มีระยะเริ่มต้นตั้งแต่ 14mm และสุดที่ 30mm ทำให้มีความยืดหยุ่นในการใช้งานสูง ก็คือเราจะใช้ระยะที่ไวด์มากๆ ก็ได้ หรือถ้าบางสถานการณ์จำเป็นต้องใช้ช่วงที่กึ่งๆ นอรมอล ก็ยังสามารถที่จะหมุนซูมเลนส์ไปยังระยะ 30mm ได้ เพราะงั้นถ้าใครที่มีนิสัยไม่ชอบพกเลนส์นอรมอล อาจจะพกแค่ 14-30mm / 50mm / 70-200mm เลยก็ได้ครับ

ยุคหลังมานี้ ตั้งแต่ผมได้รับเลนส์ 14-30mm มาใช้ ถ้าสถานที่ที่ผมไปไม่ใช่งานที่ต้องถ่ายส่ง หรืออยากได้ความคล่องตัวในการพกพา เลนส์ตัวนี้แทบจะกลายเป็นเลนส์ไวด์ประจำตัวของผมไปแล้ว ถ้าต้องเทียบกับ PC 19mm ที่ผมชอบพกเป็นประจำ แล้วน้ำหนักเกือบกิโล การที่มีเลนส์ที่มีความตรงสูงขนาดนี้ กับน้ำหนักไม่ถึงครึ่งกิโล ทำให้ผมไม่ลังเลเลยที่จะโยน 19mm เอาไว้ที่บ้าน แล้วเลือกที่จะแก้ Perspective เอา หรือเลือกที่จะถ่ายมาครอปภาพเอา เพราะกล้องสมัยนี้ ขนาดภาพเหลือเฟือที่จะใช้งานมากๆ ครับ

ข้อดี
- ขนาดเล็กกระทัดรัด น้ำหนักเบา
- หน้าเลนส์ใส่ฟิลเตอร์ได้ ดูแลง่าย
- ให้มิติภาพที่ตรง ในระดับที่เลนส์ PC-E ยังอาย
- คุณภาพภาพจัดเต็ม ความคมไว้วางใจได้
- แฟลร์แก้ปัญหาได้ดีกว่าเลนส์รุ่นก่อนๆ มาก
ข้อเสีย
- เป็น External ซูม หากมีน้ำหรืออะไรหยดใส่ อาจจะทำให้มีอะไรเข้าไปในเลนส์ได้
- แฉกปลายบานที่ f แคบ อาจจะไม่ถูกใจกลุ่มผู้ใช้บางกลุ่ม
- f/4 อาจจะยังไม่ตอบโจทย์การใช้งานบางประเภท
สำหรับราคาเลนส์ตัวนี้ เคาะมาอยู่ที่ 42900 บาท (ราคาเปิด) อาจจะลองสอบถามราคาขายที่ดีลเลอร์แต่ละเจ้าได้อีกครั้งครับ
ขอขอบคุณ Nikon Asia ที่ให้การสนับสนุนอุปกรณ์สำหรับการใช้งาน และรีวิวในช่วงแรกก่อนวางจำหน่ายจริงนะครับ
